5 แนวโน้มรูปแบบอาหารที่จะเกิดขึ้นในปี 2020

Credit: www.ThaiSMEsCenter.com

แนวโน้มรูปแบบอาหารที่จะเป็นที่นิยมในปี 2020

1.เน้นความเป็นธรรมชาติที่มากขึ้น
แนวโน้มอาหารธรรมชาติและอาหารออแกนิคต่าง ๆ ไม่ได้ชะลอตัวลงเลย แถมยังมีความนิยมเพิ่มมากขึ้น และคาดการณ์ว่าปี 2020 จะเป็นปีที่อาหารประเภทนี้จะได้รับความนิยมสูงที่สุด ผู้บริโภคทั่วยุโรปจะยังคงปฏิเสธผลิตภัณฑ์ที่มีสารแต่งเติมมากเกินไป และยอมรับส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างผักและผลไม้ระดับพรีเมียมมากกว่า

2.เน้นเรื่องของสุภาพผู้สูงอายุ
ผลิตภัณฑ์เพื่อผู้สูงอายุไม่ได้พุ่งเป้าไปแค่ผู้ที่มีอายุ 60 ปี แต่หมายถึงผู้บริโภคแทบทุกรุ่นตระหนักถึงการบบริโภคที่มีผลต่ออายุ สุขภาพ รูปลักษณ์ของตนเอง ตัวอย่างเช่น ผู้ผลิตหลายรายกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่ลดริ้วรอยจากสารต้านอนุมูลอิสระในผลเบอร์รี่ เช่น สตรอเบอร์รี่และอโรเนีย

3.เน้นสิ่งที่ดีต่อลำไส้
โยเกิร์ตโปรไบโอติกตอนนี้ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการหมัก เช่น นมเปรี้ยวเคเฟอร์ (ซึ่งมาจากการหมัก น้ำนมวัว น้ำนมควาย หรือน้ำนมแพะ ด้วยแบคทีเรียและยีสต์ ทำให้ได้ทั้งกรด และแอลกอฮอล์เคเฟอร์) และชาหมัก (ประกอบด้วยโพรไบโอติกส์ หรือเชื้อจุลินทรีย์และยีสต์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยทำลายเชื้อแบคทีเรียอันตรายและเชื้อโรคหลายชนิดด้วย) ซึ่งเป็นประเภทที่คาดว่าจะขยายตลาดในปี 2020 แม้ว่าความเป็นกรดและรสชาติที่ไม่คุ้นชินจะเป็นอุปสรรคสักเล็กน้อย แต่คาดการณ์ว่า ผักและผลไม้ราสเบอร์รี่และพลัมจะปรับปรุงความอร่อยที่ทำให้รับประทานได้ง่ายมากขึ้น

4.เน้นการใช้ระบบสืบย้อนกลับจะทำให้ความเสียหายน้อยลง
ระบบสืบค้นย้อนกลับ คือ ระบบที่จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในการซื้อสินค้า เพื่อการบริโภคว่าสินค้าที่ซื้อไม่มีสิ่งปนเปื้อน มีความปลอดภัย โดยสามารถตรวจสอบเส้นทางของอาหารนั้น ๆ ได้ และช่วยลดความสูญเสียในการเรียกคืนสินค้าของบริษัทผู้ผลิต ให้เรียกคืนได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็วในปริมาณที่ควรจะเป็น

5.เน้นเรื่องความสะดวกสบาย
อาหารที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ไม่ได้เป็นเทรนด์ใหม่แต่อย่างใด แต่ในปี 2020 เราจะเห็นว่ามันยกระดับขึ้น โดยผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม และผู้ค้าปลีกจะต้องเพิ่มจำนวนผู้ชมให้มากขึ้น แม้ว่าจะส่งผลให้ตารางงานยุ่งยากมากขึ้น แต่ยังคงเก็บเป้าหมายด้านสุขภาพและความต้องการผสมรสชาติในรูปแบบใหม่ ๆ